เดินไปในอริยมรรค (ธ.ค. 67)

ทางเดินไปเพื่อความสิ้นไปแห่งกิเลสและทุกข์ทั้งปวง กิเลสและทุกข์ใด ๆ ที่ผ่านได้แล้วจะไม่กลับมาอีกเลยตลอดกาล ทางนั้นคืออริยมรรคมีองค์ ๘ ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศไว้ดีแล้ว มาศึกษาและฝึกหัด เพื่อให้ชีวิตที่เหลืออยู่ “เดินไปในอริยมรรค” นี้ด้วยกัน

รู้จำ…ไม่รู้จัก…ไม่รู้แจ้ง.. (พ.ย. 67)

รู้จำ เป็นการเรียนรู้หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า รู้จำ จำเป็นต้องเรียนรู้ให้เข้าใจก่อนที่จะปฏิบัติ
รู้จัก เป็นการปฏิบัติให้เห็นสภาวธรรมตามความเป็นจริง รู้จัก คือนำมาปฏิบัติตามที่เรียน เพื่อให้เกิดปัญญาเห็นประจักษ์ เพียงแค่รู้จำคำสอน แต่ไม่รู้จักจากการปฏิบัติ ก็ไม่สามารถที่จะรู้แจ้งได้ต้องรู้จำ ต้องรู้จัก จึงจะรู้แจ้ง

ปรมัตถ์ภาวนา (เม.ย. 67)

เชิญชวนผู้สนใจร่วมเจริญภาวนา เพื่อสังเกตสภาพธรรมตามความเป็นจริง ไม่ได้เกิดขึ้นโดยการอ่านและการฟังเท่านั้น แต่เกิดจากการสังเกตและปฏิบัติเช่นกัน

ปรมัตถ์ภาวนา (พ.ย. 67)

เชิญชวนผู้สนใจร่วมเจริญภาวนา เพื่อสังเกตสภาพธรรมตามความเป็นจริง ไม่ได้เกิดขึ้นโดยการอ่านและการฟังเท่านั้น แต่เกิดจากการสังเกตและปฏิบัติเช่นกัน

การเตรียมอริยทรัพย์สำหรับคนไข้ระยะสุดท้าย (พ.ย. 67)

ความเจ็บความตายเป็นของธรรมดา แต่ทำอย่างไรวิถีจิตสุดท้ายที่จะจากโลกไปผู้ป่วยและคนดูแลต้องมีสติ จึงจะทำให้จิตวิญญาณของผู้ตายเข้าสู่สุคติภูมิ

วิปัสสนาสติปัฏฐาน 4 (ก.ค. 67)

ภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นทางสายเอกเพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ
เพื่อดับทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุธรรม ทำให้แจ้งพระนิพพานทางนี้คือ สติปัฎฐาน 4

อนัตตาธรรมกับการปล่อยวาง (มิ.ย. 67)

อนัตตาธรรม” เป็นการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ทุกขณะของชีวิตมนุษย์ถูกขับเคลื่อนด้วยเหตุปัจจัยนับไม่ถ้วน การเห็นชัดว่าข้อความนี้คือสัจธรรมของทุกขณะชีวิต จะเป็นภูมิต้านทานการเกิดอัตตา